มงคลเทวี

 

ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์โลกทั้งหลาย ในอดีตชาติล่วงแล้วแต่หนหลัง ครั้งศาสนาพระธรรมปาลสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ณ คิรีบูรณมหานคร ทรงพระนามว่าสมเด็จพระอภินันทรัฐ ราชาธิบดี ฝ่ายว่าพิมพาข้าพระบาทนี้ เกิดเป็นสตรีแล้วต่อมาได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าอภินันทรัฐนั้น มีนามว่า นางพระยามงคลเทวี

กาลวันหนึ่งสมเด็จพระชินสีห์พุทธธรรมปาลสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระมหากรุณาเสด็จพระพุทธดำเนินมาโปรดเวไนยสัตว์จนถึงเมืองคิรีบูรณมหานคร ครั้นทรงพักผ่อนพอสมควรแล้ว ก็ทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนาอันวิจิตรพิศดารยิ่งหนักหนา สมเด็จพระอภินันทรัฐราชาธิบดีทรงสดับแล้ว ก็ทรงพระโสมนัสยินดีในรสพระสัทธรรมเทศนานั้นสุดประมาณ จูงพระกรพระอัครมเหสีมงคลเทวีไปหมอบเฝ้าอยู่เบื้องพระพักตร์สมเด็จพระชินสีห์เจ้าแล้ว ก็ทรงบริจาคพระอัครมเหสีนั้น ให้เป็นไทยทานเครื่องสักการบูชาพระสัทธรรมเทศนา แล้วทรงออกพระวาจาตั้งความปรารถนาว่า

"ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์โลก! ข้าพระบาทขอยกพระอัครมเหสีที่รักปานดวงใจ ให้เป็นทานในกาลบัดนี้ อันเป็นทานบารมีที่บุคคลทำได้โดยยาก ด้วยอานุภาพแห่งทานบารมีที่บุคคลทำได้โดยยากนี้ ขอให้ข้าพระบาทได้มีโอกาสตรัสเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นด้วยเถิด

อนึ่ง เมื่อข้าพระบาทจะเกิดอีกในชาติต่อไปแล้วไซร้ ขอให้นางพระยามงคลเทวีที่เป็นอัครมเหสี จงมีโอกาสเกิดเป็นอัครมเหสีของข้าพระบาทด้วยเถิด พระเจ้าข้า"

สมเด็จพระเจ้าอภินันทรัฐราชาธิบดี ทรงกระทำพระวจีปณิธานฉะนี้แล้ว ก็ทรงมีพระทัยผ่องแผ้วโสมนัสศรัทธา ใคร่จะได้เป็นญาติในพระบวรพุทธศาสนา จึงทรงสละราชสมบัติเป็นการชั่วคราว แล้วเข้าไปขอบรรพชาอุปสมบทในพระธรรมวินัยแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงเพศเป็นพระภิกษุแล้ว พระนางก็ทรงเลื่อมใสศรัทธาอุตสาหะนำเอาจตุปัจจัย คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานเภสัช มาถวายแก่พระภิกษุบุราณสวามีทุกวันมิได้ขาดเลย

ในขณะที่สมเด็จพระเจ้าอภินันทรัฐ ทรงสละราชสมบัติผนวชเป็นพระภิกษุทรงสิกขาอยู่นั้น กาลวันหนึ่ง เกิดมีเหตุอาเพศอันไม่ควรจะเป็น กล่าวคือ ได้มีนางทาสีของคฤหบดีคนหนึ่ง ซึ่งมีความผิดเกรงว่านายจักฆ่าตี จึงหลบหนีมาในยามราตรี แล้วแอบไปซ่อนตัวอยู่ใต้กุฎีที่พระภิกษุราชาธิบดีประทับอยู่นั้น ครั้นถึงเพลาเช้าตรู่ ได้เวลาที่เจ้ามงคลเทวีจะออกไปสู่อารามแล้ว นางแก้วซึ่งมีพระทัยห่วงใยในพระภิกษุบุราณราชสวามี ก็มิได้รอช้านำเอาภัตตาหารซึ่งเตรียมไว้เสด็จออกไปสู่อาราม ก็ได้ทอดทัศนาเห็นนางทาสเจ้ากรรมนอนหลับเพลินอยู่ใต้กุฎี นางพระยาก็ให้บังเกิดความหึงหวงและโกรธเคืองพระชีต้นคือ พระภิกษุราชาธิบดี ว่าคงจะทรงล่วงสิกขาบทลอบรักสมัครสังวาสกับนางหญิงที่นอนอยู่ใต้ถุนกุฎีนี้ในยามราตรีที่ปลอดผู้คนเป็นแม่นมั่น เจ้าเกิดความสำคัญผิดคิดหวาดระแวงไปตามวิสัยสตรีที่รักสามีฉะนี้ แล้วก็บังเกิดความโกรธนักหนา โยนทิ้งภัตตาหารที่นำมาให้ตกลงกับพื้นพสุธาหน้ากุฎี แล้วก็ขึ้นไปชั้นบนเห็นพระชีต้นเธอกำลังนั่งสมาธิอยู่ตามสมณวิสัย ก็เข้าใจว่าเป็นการกระทำเพื่อเป็นเล่ห์กลลวงตน นาง พระยาจึงตรงเข้าไปดึงเอาจีวรออกจากวรกายแห่งพระชีต้นแล้วก็ฉีกสลัดให้ขาดจนหาชิ้นดีมิได้ แม้พระภิกษุอภินันทรัฐบุราณราชสวามีซึ่งไม่ทราบเรื่องอันใด จะได้เฝ้าไต่ถามถึงเหตุว่า ไฉนนางพระยาจึงมีอาการดุร้ายเช่นนี้ เจ้ามงคลเทวีก็หาตอบไม่ เมื่อฉีกจีวรและร้องไห้ จนหนำใจแล้ว ก็กลับไปสู่พระบรมมหาราชวังด้วยความคั่งแค้นในพระหฤทัยไม่เสวยพระกระยาหารแต่อย่างใดเลย ในไม่ช้านางพระยามงคลเทวีก็ถึงแก่ชีพิตักษัยไปด้วยเหตุที่ขาดอาหารนั้น แล้วพลันไปอุบัติเกิดในนิรยภูมิ เพราะเหตุที่เจ้าทำกาลกิริยาไปในขณะที่จิตกอบด้วยโทสะ เป็นสัตว์นรกร่างร้ายได้เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสอยู่ ในนิรยภูมิสิ้นกาลช้านาน

ข้าแต่พระองค์ผู้เคยทรงเป็นสวามี! โทษผิดแห่งพิมพาข้าพระบาทนี้ หากจะพึงมีในชาตินั้น โดยเกิดความสำคัญผิด แล้วยื้อยุดดึงจีวรออกจากพระวรกายและฉีกทิ้งให้ย่อยยับเสียหายแล้วไซร้ ขอองค์สมเด็จพระจอมไตรโลกนาถ จงทรงพระกรุณาอดโทษให้แก่ข้าพระบาทชื่อว่าพิมพา ซึ่งจักขอถวายบังคมลาเข้าสู่นิพพานในวันนี้เสียเถิด พระเจ้าข้า