นางกินรี
ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตวโลกทั้งหลาย ในอดีตชาติล่วงแล้วแต่หนหลัง ครั้งศาสนาพระธรรมทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ผู้ทรงเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระบรมกษัตริย์ เสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครกุมภวดี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าวังคราช ฝ่ายว่าพิมพาข้าพระบาทนี้ ถือกำเนิดเป็นนางกินรีอยู่ที่สุวรรณคูหาถ้ำทองอันประเสริฐ ณ หิมวันตประเทศ กาลวันหนึ่ง เจ้ากินรีสาวโศภา ออกจากสุวรรณคูหาไปเที่ยวเก็บบุปผชาติเกสรดอกไม้ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายหลากสีเป็นที่รื่นรมย์ใจ ในหิมวันตประเทศ แล้วก็บังเอิญให้เกิดเหตุร้ายหลงไปติดอยู่ในข่ายที่นายพรานใจฉกาจดักไว้ วันนั้น สมเด็จพระเจ้าวังคราชผู้เป็นใหญ่ ในกุมภวดีนคร เสด็จบทจรประพาสป่าและหลงทิศหาทางออกไม่ได้ เที่ยววนเวียนไปมาทางโน้นทางนี้ จนมาพบนางกินรีสาวโศภาซึ่งปริเวทนาการด้วยติดอยู่ในข่ายไปไม่ได้ พระองค์จึงทรงเข้าช่วยทำลายข่ายนั้น นำเอานางกินรีออกมาได้สำเร็จ แล้วทั้งสองก็ผูกสมัครรักใคร่ด้วยอำนาจแห่งบุพเพสันนิวาส สมเด็จพระเจ้าวังคราชจึงทรงพยายามพานางกินรีดั้นด้นมาจนถึงพระนคร แล้วก็ทรงแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งที่เอกอัครมเหสี สร้างพระตำหนักให้ประทับอยู่ที่พระราชอุทยานอันเต็มไปด้วยพฤกษาที่มีดอกและใบ ด้วยทรงดำริในพระทัยของพระองค์ว่า ธรรมดาวิสัยของนางกินรี ย่อมมีใจชื่นชมยินดีพอใจในบุปผชาติทั้งหลายอยู่เป็นนิตยนิรันดร์ ครั้นว่าจะรับเข้าไปอยู่ในพระบรมราชวังเล่า ก็ให้เกรงไปว่านางจะเศร้าโศกหงอยเหงาเพราะไม่มีบุปผามาลัยเป็นที่เจริญใจ มีพระบรมราชโองการแห่งพระเจ้าวังคราชผู้เป็นใหญ่ให้เจ้าพนักงานนำบุปผชาติและเกสรดอกไม้ ไปถวายพระอัครมเหสีซึ่งมีชาติเป็นกินรีจากป่าหิมพานต์จงทุกวัน อย่าให้ขาดได้ ในไม่ช้า ก็ปรากฏว่าดอกไม้และเกสรดอกไม้ในพระนครนั้นถึงความหมดสิ้น พระอัครมเหสีกินรีเจ้าเมื่อขาดดอกไม้ก็มีแต่ความโศกเศร้าหงอยเหงาอยู่ทุกวารวัน ปราศจากความสุขชื่นบาน ด้วยความสงสารและเสน่หาอาลัยในองค์อัครมเหสี สมเด็จพระเจ้าวังคราชาธิบดีจึงทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติ พาเอานางกินรีอัครมเหสีกลับไปสู่หิมวันตประเทศเสด็จยับยั้งรั้งแรมอยู่ในป่าไพร กับด้วยนางซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าดวงหฤทัย ตราบเท่าถึงกาลสิ้นชนมายุสังขาร ก็เสด็จสวรรคตที่กลางป่าหิมพานต์นั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เคยทรงเป็นสวามีโทษผิดแห่งพิมพาข้าพระบาทนี้ หากจักพึงมีในชาตินั้น โดยเป็นเหตุให้พระองค์ต้องทรงลำบาก ถึงกับสละราชสมบัติอันเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ทั้งหลาย จนดับขันธ์สวรรคตในกลางป่าหิมพานต์แล้วไซร้ ขอองค์สมเด็จพระจอมไตรโลกนาถ จงทรงพระกรุณาอดโทษให้แก่ข้าพระบาทชื่อว่าพิมพา ซึ่งจักขอถวายบังคมลาเข้าสู่นิพพานในวันนี้เสียเถิด พระเจ้าข้า
|