ปทุมากุมารี

 

ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตวโลกทั้งหลาย ในอดีตชาติล่วงแล้วแต่หนหลัง ครั้งศาสนาพระปทุมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ผู้ทรงเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นมาณพหนุ่มรูปงาม นามว่าอังคุตรมาณพ ฝ่ายว่าตัวพิมพาข้าพระบาทนี้เกิดเป็นกุมารี นักเต้นรำนามว่า ปทุมากุมารี ครั้นจำเริญวัยวัฒนาการแล้ว ก็ได้ผูกสมัครรักใคร่เป็นสามีภรรยากัน

กาลวันหนึ่ง สมเด็จพระมหากษัตริย์เจ้า ซึ่งทรงพระนามว่า พระเจ้าสังคราชบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้มีการเล่นมหรสพขึ้น ในท่ามกลางพระมหานคร เจ้าปทุมากุมารีซึ่งเป็นนาฏศิลปินถนัดในการเล่นเต้นรำ ก็สมัครเข้าไปเล่นเต้นรำตามอัธยาศัย ท่ามกลางสายตาของฝูงชนทั้งหลาย ครั้นอังคุตรมาณพผู้เป็นสามีตามฝูงชนเข้าไปดู คนทั้งหลายซี่งอยู่ในที่นั้นต่างก็พากันล้อเลียนเยาะเย้ยว่า

"ท่านเจ้าข้าเอ๋ย! บุรุษผู้นี้เป็นสามีของนางบำเรอคนนั้น บุรุษคนนี้เป็นสามีของนางรำคนนั้น บุรุษคนนี้เป็นสามีของนางรำที่ปราศจากความละอายคนนั้น"

ร้องบอกกันต่อๆไปฉะนี้ ซึ่งทำให้อังคุตรมาณพผู้เป็นสามีได้รับความอับอายเป็นอันมาก ถึงกับต้องแหวกฝูงชนกลับมาเคหา ด้วยความอับอายและด้วยความเสียใจหนักหนา

ข้าแต่พระองค์ผู้เคยทรงเป็นสวามี โทษผิดแห่งพิมพาข้าพระบาทนี้ หากจักพึงมีในชาตินั้น โดยทำให้พระองค์ได้รับความอับอายต่อหน้ามหาชน จนเกิดเป็นความโทมนัสอึดอัดใจแล้วไซร้ ขอองค์สมเด็จพระจอมไตรโลกนาถ จงทรงพระกรุณาอดโทษให้แก่ข้าพระบาทชื่อว่าพิมพา ซึ่งจักขอถวายบังคมลาเข้าสู่นิพพานในวันนี้เสียเถิด พระเจ้าข้า